Combined

Arteriovenous Malformation

(อา-ที-รี-โอ-วี-นัส มัล-ฟอร์-เม-ชั่น)
โดย แพทย์หญิงสัญชวัล วิทยากรฤกษ์

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1. คืออะไร?

Arteriovenous Malformation (AVM) หรือ ความผิดปกติของการเชื่อมต่อระหว่างหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ เป็นภาวะที่หลอดเลือดแดงเชื่อมต่อกับหลอดเลือดดำโดยตรง โดยไม่มีเส้นเลือดฝอยคั่นกลาง ทำให้เลือดไหลเร็วผิดปกติ ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว เกิดแรงดันสูง และเสี่ยงต่อการแตกหรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ รวมถึงทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่มีรอยโรคได้ออกซิเจนน้อยลง


2. พบบ่อยแค่ไหน?

AVM พบได้น้อย โดยประมาณ 1 ใน 100,000 คนต่อปี เกิดได้ในทุกช่วงอายุ แต่ส่วนใหญ่มักถูกตรวจพบในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น


3. พบตรงไหนของร่างกาย?

AVM สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย เช่น:

  • สมอง (Cerebral AVM): เป็นตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุด
  • ไขสันหลัง (Spinal AVM)
  • ใบหน้าและหนังศีรษะ
  • แขน ขา
  • อวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ ไต ลำไส้

4. วินิจฉัยอย่างไร?

การตรวจร่างกาย

หาก AVM อยู่ใกล้ผิวหนัง อาจสังเกตได้ดังนี้:

  • ก้อนหรือตุ่มนูน บนผิวหนัง
  • สีผิวเปลี่ยน เช่น แดง ม่วง ฟ้า คล้ายรอยฟกช้ำ หรือปาน
  • อุ่นกว่าปกติเมื่อสัมผัส
  • อาจมีเสียงฟู่ (bruit) จากการไหลเวียนผิดปกติเมื่อใช้หูฟัง
  • อาจเต้นตามจังหวะชีพจร

การตรวจทางภาพถ่าย

  • การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงหรืออัลตราซาวน์ (Ultrasound/Doppler): ตรวจเบื้องต้นสำหรับ AVM ที่ผิวหนัง
  • การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI): เพื่อดูโครงสร้างและตำแหน่งของ AVM
  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) คือ เพื่อแสดงภาพรายละเอียดของเนื้อเยื่อ
  • การตรวจหลอดเลือด (Angiography): ใช้สารทึบรังสีเพื่อดูการไหลเวียนของเลือดอย่างละเอียด เป็นวิธีมาตราฐานในการวินิจฉัยโรค AVM

5. ภาวะแทรกซ้อน (Complications)

  • เลือดออกเฉียบพลัน โดยเฉพาะหาก AVM อยู่ในสมอง อาจทำให้เกิดอัมพาตหรือเสียชีวิตได้
  • ชัก หรืออาการทางระบบประสาท ใน AVM ที่สมอง
  • ปวดเรื้อรัง หรือบวม ใน AVM ที่แขนขา
  • หัวใจล้มเหลว หาก AVM ใหญ่และมีการไหลเวียนผิดปกติจำนวนมาก
  • แผลเรื้อรัง หรือเลือดออกจากผิวหนัง ถ้า AVM อยู่ตื้น

6. การรักษา

(เลือกวิธีตามตำแหน่ง ขนาด และความรุนแรงของ AVM)

การผ่าตัด (Surgical Resection)

  • เหมาะกับ AVM ที่มีขอบเขตชัด และอยู่ในตำแหน่งที่ผ่าตัดได้
  • ผลการรักษามักชัดเจนหากสามารถเอาออกได้หมด

การอุดหลอดเลือด (Embolization)

  • ฉีดสารอุดหลอดเลือด เช่น Onyx, NBCA glue, หรือ particles เพื่อปิดทางไหลของเลือด
  • ข้อควรระวัง: มักต้องทำหลายรอบเพื่อค่อย ๆ ลดการไหลเวียนของเลือด

การฉายรังสีแบบเฉพาะจุด (Stereotactic Radiosurgery)

  • เป็นการฉายแสงขนาดสูงเพียงครั้งเดียวที่บริเวณรอยโรค เสมือนการผ่าตัดแต่ใช้รังสีรักษาใช้ในการรักษารอยโรคในสมองขนาดเล็ก
    เช่น Gamma Knife หรือ CyberKnife

7. กลุ่มอาการที่เกี่ยวข้อง (Associated Conditions)

Hereditary Hemorrhagic Telangiectasia (HHT)

  • เป็นโรคทางพันธุกรรมที่หลอดเลือดพัฒนาอย่างผิดปกติทั่วร่างกาย
  • อาการสำคัญ:
    • เลือดกำเดาไหลบ่อยตั้งแต่วัยเด็ก
    • จุดแดงคล้ายร่างแหหรือตาข่ายที่ผิวหนังหรือเยื่อบุอ่อน เช่น เยื่อบุตาขาว (telangiectasia)
    • AVM ในปอด ตับ สมอง ไขสันหลัง
  • พบยีนที่เกี่ยวข้อง เช่น ENG, ACVRL1, SMAD4
  • เป็นโรคที่ ถ่ายทอดแบบ autosomal dominant (ลูกมีโอกาส 50% ถ้าแม่หรือพ่อเป็น)
  • หากสงสัย ควรส่งตรวจ genetic testing และตรวจอวัยวะภายในอย่างละเอียด

8. ข้อมูลพันธุกรรม

  • AVM ส่วนใหญ่เกิดแบบ ไม่ทราบสาเหตุ (sporadic)
  • แต่ในบางกรณี มีความเกี่ยวข้องกับการกลายพันธุ์ของยีน เช่น:
    • RASA1 (มักเกี่ยวข้องกับ CM-AVM syndrome)
    • PIK3CA (ในบางกลุ่มที่มีการเติบโตผิดปกติร่วมด้วย)
  • การตรวจยีนอาจแนะนำในผู้ที่มี AVM หลายจุด หรือมีประวัติครอบครัว

9. สิ่งที่ครอบครัวควรเก็บข้อมูล และการดูแล

  • สังเกตอาการทางระบบประสาท เช่น ชัก อ่อนแรง
  • ติดตามการเติบโตหรือเปลี่ยนแปลงของ AVM
  • หลีกเลี่ยงการกระแทกหรือกิจกรรมเสี่ยง (เช่น กีฬาแรง ๆ หากมี AVM ในสมอง)
  • เก็บประวัติการรักษา / ภาพถ่ายรอยโรค / ผล MRI / angiography
  • ตรวจติดตามกับแพทย์เฉพาะทางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหากมี AVM ในอวัยวะภายใน