Venous

Venous Malformation

(วี-นัส มัล-ฟอ-เม-เชิน)
ความผิดปกติของหลอดเลือดดำที่เป็นมาแต่กำเนิด แต่บางรายเพิ่งสังเกตเห็นได้เมื่อโตขึ้น
โดย อาจารย์ แพทย์หญิงสัญชวัล วิทยากรฤกษ์

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1. คืออะไร?

Venous Malformation (VM) เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดดำชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่กำเนิด โดยหลอดเลือดดำมีโครงสร้างผิดปกติ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกและค้างอยู่ในบริเวณนั้น เกิดเป็นก้อนนิ่ม ๆ สีม่วงคล้ำใต้ผิวหนัง หรือบางครั้งลึกในกล้ามเนื้อหรืออวัยวะภายใน

รอยโรคจะโตขึ้นตามร่างกายหรือโตตามฮอร์โมนในวัยรุ่น และไม่หายไปเอง


2. พบบ่อยแค่ไหน? 

พบได้ประมาณ 1 ใน 5,000 ถึง 1 ใน 10,000 คน เป็นหนึ่งในความผิดปกติของหลอดเลือดที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่ม Vascular Malformations

แหล่งข้อมูล: https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S1055858620300962


3. พบบริเวณใดของร่างกาย? 

  • ใบหน้าและศีรษะ (พบมากที่สุด)
  • แขน ขา
  • ลิ้น ช่องปาก เหงือก
  • กล้ามเนื้อ ลึกในอวัยวะ เช่น ลำไส้ ตับ มดลูก

รอยโรคอาจปรากฏตั้งแต่เด็ก หรือเริ่มเห็นชัดเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือเกิดการกระตุ้น เช่น การบาดเจ็บ ฮอร์โมนในวัยรุ่น หรือการตั้งครรภ์


4. วินิจฉัยอย่างไร? 

  • ตรวจร่างกาย: พบก้อนนิ่ม ๆ สีม่วงคล้ำ กดแล้วยุบ ขยายตอนร้อง/ยืน/ออกแรง
  • Ultrasound/Doppler: ดูลักษณะการไหลของเลือด
  • MRI with contrast: ตรวจหาขอบเขต ความลึก และลักษณะของรอยโรค
  • X-ray: พบจุดแคลเซียมที่เกิดจากลิ่มเลือดเก่า (phleboliths)

5. ภาวะแทรกซ้อนหรือภาวะที่ควรระวัง 

  • ปวดเรื้อรัง โดยเฉพาะหลังใช้แรงหรือยืนนาน
  • เลือดออกจากรอยโรค (ในช่องปาก / อวัยวะเพศ)
  • การอุดตันของหลอดเลือด
  • ข้อเคลื่อนหรือกระดูกผิดรูป หากรอยโรคอยู่ใกล้ข้อ
  • การเสียความมั่นใจ (หากอยู่บนใบหน้า / เห็นชัด)

6. แนวทางการรักษา 

การรักษา VM มักต้องใช้การดูแลระยะยาวแบบสหสาขาวิชาชีพ โดยขึ้นกับตำแหน่ง ขนาด และอาการ

1. การสังเกตอาการ (Observation):

  • ใช้ในรายที่ไม่มีอาการหรือไม่รบกวนชีวิตประจำวัน

2. การใส่เครื่องพยุง/รัด (Compression Garments):

  • ใช้กับรอยโรคที่แขนขาเพื่อลดอาการปวด บวม และชะลอการขยาย

3. การฉีดยาอุดหลอดเลือด (Sclerotherapy):

  • หัตถการหลัก ใช้ฉีดสารเข้าไปในหลอดเลือดผิดปกติเพื่อให้เกิดการอักเสบและยุบตัว
  • ทำโดยแพทย์รังสีร่วมรักษา (Interventional Radiologist)
  • อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง เว้นช่วงหลายเดือน

4. การผ่าตัด (Surgical Resection):

  • กรณีที่รอยโรคจำกัดและเข้าถึงได้
  • มักทำหลัง sclerotherapy เพื่อลดขนาดก่อน

5. การรักษาเสริม:

  • ยาแก้ปวด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ในกรณีลิ่มเลือด)
  • การทำกายภาพบำบัด หากส่งผลต่อการเคลื่อนไหว

7. กลุ่มอาการที่เกี่ยวข้อง 

  • Blue Rubber Bleb Nevus Syndrome
  • Glomuvenous Malformation
  • Maffucci Syndrome

8. ข้อมูลพันธุกรรม 

  • การกลายพันธุ์ของยีน TEK (TIE2) และ PIK3CA ถูกพบในผู้ป่วยหลายราย
  • เป็นการกลายพันธุ์แบบ somatic ไม่ถ่ายทอดจากพ่อแม่

9. สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยบันทึก

  • ถ่ายภาพรอยโรคเป็นประจำ (แสงเดิม มุมเดิม)
  • จดบันทึกขนาด ความเจ็บ อาการบวม หรือเลือดออก
  • หากใส่ถุงรัด ให้บันทึกชั่วโมงการใช้งานต่อวัน
  • ติดตามผลหลัง sclerotherapy หรือผ่าตัด

10. แกลเลอรี่ภาพ