Capillary

Port-wine capillary malformation 

(พอร์ต-ไวน์ แคป-พิล-ลา-รี มัล-ฟอ-เม-เชิน)
ปานแดง
โดย อาจารย์ แพทย์หญิงสัญชวัล วิทยากรฤกษ์

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1. คืออะไร?

Port-wine capillary malformation ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Port-wine stain (PWS) หรือ Nevus Flammeus คือภาวะที่หลอดเลือดฝอยในชั้นผิวหนังขยายตัวผิดปกติ ทำให้เห็นเป็นรอยปานสีแดง ชมพู หรือม่วง มีขอบเขตชัดเจน มักปรากฏตั้งแต่แรกเกิดและคงอยู่ตลอดชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา

ในวัยเด็ก รอยปานจะมีลักษณะแบน สีอ่อน แต่เมื่อโตขึ้นอาจ:

  • สีเข้มขึ้น
  • ผิวบริเวณนั้นหนาขึ้น
  • มีตุ่มนูน (blebs) หรือหลอดเลือดโป่งพอง

2. พบบ่อยแค่ไหน? 

พบประมาณ 0.3–0.5% ของทารกแรกเกิด หรือประมาณ 1 ใน 300

พบบ่อยในทั้งเพศชายและหญิงเท่า ๆ กัน


3. พบบริเวณใดของร่างกาย? 

  • ใบหน้า (โดยเฉพาะรอบตาและแก้ม)
  • คอ
  • ลำตัว แขน ขา

มักเกิดเพียงด้านเดียวของร่างกาย และอาจสัมพันธ์กับกลุ่มอาการอื่นได้ในบางตำแหน่ง 


4. วินิจฉัยอย่างไร? 

ส่วนใหญ่สามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจร่างกาย

แพทย์อาจพิจารณาตรวจเพิ่มเติมในกรณี:

  • รอยปานอยู่บริเวณรอบดวงตา ส่งตรวจตา เพื่อประเมินภาวะผิดปกติทางตาที่อาจพบร่วมกัน เช่น โรคต้อหิน (Glaucoma)
  • รอยปานอยู่บริเวณหน้าผาก/ขมับ → เฝ้าระวังภาวะผิดปกติของสมองที่อาจพบร่วมกัน แพทย์อาจพิจารณาส่งตรวจ MRI สมอง ในรายที่มีความเสี่ยงเพื่อคัดกรอง Sturge-Weber syndrome

5. ภาวะแทรกซ้อนหรือภาวะที่ควรระวัง 

  • ผิวหนังบริเวณรอยปานหนาขึ้นหรือมีหลอดเลือดโป่งพอง (pyogenic granuloma)
  • การติดเชื้อจากตุ่มที่แตก
  • อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาการ:
    • Sturge-Weber syndrome: มีปานแดงร่วมกับความผิดปกติของหลอดเลือดในสมองและดวงตา
      (กดลิงค์ดูเพิ่มเติม Sturge-Weber Syndrome (SWS))
    • Klippel-Trénaunay syndrome: มีปานแดงที่ขา ร่วมกับความผิดปกติของหลอดเลือดดำและการเจริญเติบโตผิดปกติของขาร่วมด้วย (กดลิงค์ดูเพิ่มเติม Klippel-Trenaunay Syndrome)

6. แนวทางการรักษา 

Pulsed Dye Laser (PDL) – การรักษาหลักสำหรับปานแดง Port-wine capillary malformation 

เป็นเลเซอร์ที่พลังงานต่ำ เพื่อทำลายหลอดเลือดฝอยผิดปกติโดยไม่ทำลายผิวหนังรอบข้าง

ข้อดี:

  • ลดสีแดง/ม่วงของรอยปาน
  • ลดโอกาสที่รอยปานจะหนาหรือตุ่มขึ้นในอนาคต
  • ปลอดภัยในเด็ก

คำถามที่พบบ่อยจากพ่อแม่:

ต้องดมยาสลบไหม?

  • สำหรับเด็กโต (4 ขวบขึ้นไป): บางรายไม่ต้องดมยา
  • สำหรับเด็กเล็กหรือกลัวมาก: อาจต้องดมยาสลบสั้น ๆ เพื่อให้อยู่นิ่ง
  • บางศูนย์มีเทคโนโลยี cooling jet ลดความเจ็บแทนดมยา

เจ็บไหม?

  • ให้ความรู้สึกคล้าย “หนังยางดีดเบา ๆ” หรือร้อนจี๊ดเล็กน้อย
  • อาจมีรอยจ้ำหรือสะเก็ดเล็ก ๆ หลังยิง 1–2 วัน

ต้องทำกี่ครั้ง?

  • ไม่สามารถหายขาดในการยิงครั้งเดียว
  • ส่วนใหญ่ต้องทำซ้ำทุก 6–8 สัปดาห์
  • จำนวนครั้งขึ้นกับสี ความลึก และการตอบสนอง (โดยเฉลี่ย 6–10 ครั้งขึ้นไป)

ทำแต่ละครั้งนานแค่ไหน?

  • แล้วแต่ขนาดของรอยปาน: 10 นาที – 1 ชั่วโมง

หายขาดได้ไหม?

  • รอยปานอาจไม่หายสนิท แต่จะจางลงมาก
  • หากทำตั้งแต่อายุยังน้อย ผลลัพธ์มักดีกว่า

หากไม่สะดวกทำเลเซอร์:

  • อาจใช้ เครื่องสำอางปกปิดเฉพาะที่
  • หรือรอจนโตพอที่จะร่วมมือกับการรักษา

7. กลุ่มอาการที่เกี่ยวข้อง 

  • Sturge-Weber syndrome: หากปานอยู่บริเวณซีกหน้าด้านใดด้านหนึ่ง บนหน้าผาก หรือแก้ม    
    (กดลิงค์ดูเพิ่มเติม Sturge-Weber Syndrome (SWS))
  • Klippel-Trénaunay syndrome: หากปานอยู่ที่ขา ร่วมกับขาโตไม่เท่ากันหรือเส้นเลือดดำผิดปกติ
    (กดลิงค์ดูเพิ่มเติม Klippel-Trenaunay Syndrome)

8. ข้อมูลพันธุกรรม

เกิดจากการกลายพันธุ์แบบ somatic (ไม่ได้ถ่ายทอดจากพ่อแม่)

ยีนที่เกี่ยวข้องคือ GNAQ ซึ่งมีผลต่อการควบคุมการเติบโตของหลอดเลือด


9. สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยบันทึก

  • ถ่ายภาพรอยปานเป็นประจำ ในแสงเดียวกันทุกครั้ง
  • จดวันที่เริ่ม/จำนวนครั้งของการทำเลเซอร์
  • บันทึกอาการผิดปกติ เช่น บวม ตุ่มนูน ติดเชื้อ
  • ถามแพทย์ว่าควรคัดกรองโรคทางสมองหรือดวงตาไหมในรายที่ปานอยู่บริเวณใบหน้า

10. แกลเลอรี่ภาพ 

ภาพจาก DermNet : https://dermnetnz.org/topics/capillary-vascular-malformation